การปลูกพืชปลูกต้นไม้นั้นก็ไม่ต่างอะไรกับการสร้างทรัพย์สิน
ฉะนั้นแล้วถ้าหากเราขยายพันธุ์ไม้ให้ได้มากขึ้นเท่าไหร่
มันก็ไม่ต่างอะไรกับการขยายทรัพย์สินให้เพิ่มมากขึ้นเท่านั้น
การขยายพันธ์ต้นไม้นั้นก็มีอยู่หลายวิธี
โดยการขยายพันธุ์แบบที่ไม่ต้องใช้เมล็ดนั้นจะมีด้วยกันอยู่ไม่กี่อย่าง ทาบกิ่ง ต่อกิ่ง ปักชำ ตอนกิ่ง ติดตา ซึ่งแต่ละวิธีก็สามารถใช้กับพืชได้หลากหลายแล้วแต่สถานการณ์และความเหมาะสมของพืชที่เราจะทำการขยายพันธุ์ด้วย
องค์ประกอบหลักๆในการขยายพันธุ์โดยที่ไม่ต้องใช้เมล็ดมีอยู่ 2 อย่างด้วยกันคือ
- กิ่งพันธุ์ ซึ่งต้องได้มาจากต้นพันธุ์ที่มีคุณภาพและมีความโดดเด่นในสายพันธุ์ของตัวเอง
- ต้นตอ คือต้นไม้ที่จะเอากิ่งพันธุ์ไปปลูกต่อเพื่อให้ได้ต้นที่แข็งแรงต้นตอจะต้องเป็นต้นตอที่สมบูรณ์ด้วยเช่นกันซึ่งการติดตา ต่อกิ่ง ทาบกิ่ง จะใช้ต้นตอต้นอื่นก็ได้ เรียกว่าการอาศัยรากจากต้นอื่น แต่ถ้าเป็นแบบปักชำ และตอนกิ่งเราจะเรียกว่า อาศัยรากของตัวเองเป็นต้นตอ
เครื่องมือที่ต้องมีในการขยายพันธุ์แบบไม่ใช้เมล็ด
- กรรไกรตัดกิ่ง
- มีดขยายพันธุ์หรือมีดคัดเตอร์
- ขุยมะพร้าว ขี้เถ้าแกลบ หรือทรายหยาบ
- ถุงพลาสติกใส
- เชือกฟาง
- ฮอร์โมนเร่งการออกราก
วิธีการขยายพันธุ์ด้วยการตอนกิ่ง
การ ตอนกิ่ง คือการทำให้กิ่งพืชเกิดรากในขณะที่อยู่บนต้นแม่ คำอธิบานี้จะทำให้เพื่อนๆเห็นภาพมากที่สุด พืชบางชนิดสามารถเกิดรากได้เองเมื่อกิ่งสัมผัสกับดิน แต่บางชนิดก็ต้องมีการกระตุ้นด้วยวัสดุที่นำไปหุ้มกับกิ่ง
วิธีนี้ยังช่วยให้สามารถขยายพันธุ์พืชในพืชที่ออกรากยากเมื่อมีการปักชำกิ่ง การตอนกิ่งจึงถือได้ว่าเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ทำให้ต้นไม้ที่เราจะขยายพันธุ์มีโอกาสรอดเพิ่มมากขึ้นมากกว่าการปักชำ รวมถึงการทำอย่างนี้จะทำให้พืชที่ปลูกโตได้เร็ว ให้ผลได้ไว ซึ่งหลายคนอาจะเรียกการตอนกิ่งว่า การตอนบนอากาศก็ได้เช่นกัน
วิธีการตอนกิ่ง
วิธีทำการตอนกิ่งแบบควั่น
- เลือกกิ่งที่มีอายุเกิน 1 ปี และอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง ปราศจากโรคต่าง ๆโดยเฉพาะกิ่งที่มีใบติดมากจะเร่งในการออกรากด้วยดี
- ควั่นกิ่งตอนโดยรอบจำนวน 2 รอบให้รอยบนใกล้กับข้อตาของกิ่ง
- กรีดมีดลงตามยาวของกิ่งระหว่างรอยที่ควั่นไว้ทั้ง 2 รอบจากนั้นลอกเปลือกที่เราควั่นไว้ออก
- ใช้มีดขูดเยื่อเมือกออกให้หมดจากบนลงล่างเมื่อไม่มีเมือกแล้วก็เป็นอันใช้ได้
- กรีดมีดเหนือรอยแผลด้านบน 2 ถึง 3 รอย ทาฮอร์โมนเร่งรากบริเวณรอยกรีดและแผลตอนบน
- ใช้ถุงพลาสติกที่มีขุยมะพร้าวผ่าครึ่งมาทำการหุ้มให้รอบบริเวณกิ่งที่เราควั่นไว้ ใช้เชือกมัดให้แน่นอย่าให้ถุงหลุดหรือหมุนได้
- เมื่อเวลาผ่านไปซัก 30 ถึง 45 วันรากก็จะเริ่มเดินให้เห็นเต็มไปหมด ถึงตอนนี้ก็สามารถที่จะนำไปชำต่อได้แล้ว
พืชที่นิยมขยายพันธุ์แบบตอนกิ่ง
จะเป็นพืชจำพวกไม้พุ่มในเขตร้อน กึ่งร้อน ไม้ยืนต้นที่มีเนื้อไม้ ได้แก่ ส้ม มะนาว ลิ้นจี่ ลำไย มะกรูด ละมุด ชมพู่ ฝรั่ง เงาะ กระท้อน มะไฟ เป็นต้น
วิธีการขยายพันธุ์ด้วยการปักชำ
การปักชำคือการนำส่วนใดส่วนหนึ่งของต้นไม้เช่น ราก ใบ กิ่ง ลำต้น ที่มีอายุพอเหมาะต่อการเจริญเติบโตมาปลูกขยายต่อในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ส่วนของพืชนั้นก็จะแตกยอดและออกรากเจริญเติบโตเป็นต้นไม้ที่เหมือนกับต้นแม่พันธุ์แบบไม่มีผิดเพี้ยน และวิธีนี้เป็นวิธีที่ง่ายๆและเพื่อนๆทุกคนก็สามารถที่จะทำได้เช่นกัน
วัสดุในการปักชำ
วัสดุที่ต้องเตรียมก็คือทรายหยาบและขี้เถ้าดำ ผสมในอัตราส่วนที่เท่ากัน 1 :1 เนื่องจากวัสดุทั้งสอง สามารถที่จะระบายน้ำได้ดีและอากาศถ่ายเทได้สะดวก ทำให้ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคเกี่ยวกับเชื้อราได้เป็นอย่างดี โดยนำวัสดุทั้งสองมาคลุกเคล้ากันระหว่างนั้นก็รดน้ำให้ชุ่มก็สามารถนำไปใช้งานได้เลย
ขั้นตอนการปักชำที่ถูกต้อง
ข้อดีของการปักชำแบบกิ่งแก่
การผักชำแบบกิ่งแก่มีข้อดีตรงที่กิ่งพันธุ์แข็งแรง ไม่เปราะบางเสียหายง่ายเหมือนกับกิ่งอ่อน สะดอกต่อการขนส่งไกล เมื่อชำจนออกรากแล้ว การสามารถที่จะย้ายไปลูกที่อื่นได้ง่ายกว่าและการใช้กิ่งแก่ในการปักชำต้นที่ปักชำจะมีขนาดใหญ่กว่าการปักชำแบบกิ่งอ่อน
วิธีการปักชำแบบกิ่งแก่
เลือกกิ่งแก่ที่มีความแข็งแรงจากต้นแม่ที่สมบูรณ์ไม่มีโรคมารบกวน ดูที่ตุ่มตาที่เต่งและสมบูรณ์ มีข้อตาห่างเท่ากัน
ทำการตัดกิ่งแก่ที่ต้องการออกมาโดยตอนตัดก็ใช้กรรไกรตัดกิ่งที่เตรียมไว้ตัดโดยตัดเป็นแนว 45 องศา ปลายด้านตัดจะมีแนวขนาดชิดกับข้อ ซึ่งการตัดกิ่งนั้นควรเลือกตัดในตอนเช้า หลังจากนั้นก็เอากิ่งไปแช่น้ำซัก 1 ถึง 2 ชั่วโมง
กรีดแผลที่โคนกิ่งซัก 2 ถึง 3 รอยเพื่อเพิ่มพื้นที่ในการออกราก ชุดโคนกิ่งที่ทำเป็นแผลลงในฮอร์โมนเร่งรากให้ถึงแผลที่ทำไว้เพื่อช่วยให้รากออกดี หลังจากนั้นก็นำไปปักลงในวัสดุที่เตรียมไว้ตั้งแต่แรกนั้นเองโดยปักเอียงเล็กน้อย กลังจากปักชำไปแล้วควรที่จะรดน้ำให้ชุ่ม รากจะเริ่มออกภายใน 4 ถึง 6 สัปดาห์
การขยายพันธุ์พืชด้วยการต่อกิ่ง
ขั้นตอนการต่อกิ่งที่ถูกต้อง
เครื่องมือที่ต้องมีในการขยายพันธุ์แบบไม่ใช้เมล็ด
- กรรไกรตัดกิ่ง
- มีดขยายพันธุ์หรือมีดคัดเตอร์
- ขุยมะพร้าว ขี้เถ้าแกลบ หรือทรายหยาบ
- ถุงพลาสติกใส
- เชือกฟาง
- ฮอร์โมนเร่งการออกราก
ลักษณะการผ่าของต้นตอที่ถูกต้อง
วิธีการขยายพันธุ์ด้วยการต่อกิ่งหรือเปลี่ยนยอด
วิธีนี้เหมือนกับวิธีการของต้นกาฝากที่จะใช้น้ำเลี้ยงจากต้นไม้ในการเจริญเติบโต การต่อกิ่ง เป็นเหมือนกับการเชื่อมต่อของเนื้อเยื่อท่อน้ำเลี้ยงของต้นไม้ชนิดหนึ่งกับต้นไม้อีกชนิดหนึ่งซึ่งการต่อกิ่งหรือเปลี่ยนยอดมีส่วนช่วยให้การขยายพันธุ์พืชที่รากออกยากนั้นมีการขยายพันธุ์ที่ง่ายขึ้น
ที่พิเศษที่สุดในการต่อกิ่งหรือเปลี่ยนยอดนี้ก็คือการได้ลักษณะเด่นจากต้นตอ เช่นระบบรากที่ดีทนต่อสภาพแวดล้อม โรคและแมลง ให้ผลผลิตมาก อย่างที่เราเห็นการที่มะนาวไปปลูกบนต่อมะขวิด ซึ่งนิยมปลูกมะนาวอย่างนี้มากเพื่อให้มะนาวมีความทนทานต่อสภาพอากาศและโรคมากยิ่งขึ้น และวิธีนี้ยังสามารถเปลี่ยนพันธุ์พืชที่ไม่เป็นที่ต้องการของตลาด มาต่อกิ่งให้เป็นพืชที่เป็นที่ต้องการองตลาดก็ได้เช่นกัน
การต่อกิ่งแบบเสียบลิ่ม
การต่อกิ่ง แบบเสียบลิ่มนั้นเป็นที่นำยมกันมากในหมู่ของคนปลูกไม้ผลพืชลำต้นเล็ก พืชที่มีเส้นเนื้อไม้ตรง ซึ่งวิธีนี้สามารถที่จะใช้ได้ทั้งกิ่งขนาดใหญ่และขนาดเล็ก
หลังจากผ่าต้นตอแล้วก็เสียบกิ่งที่ดีลงไปพันด้วยพลาสติก
วิธีทำการต่อกิ่งแบบเสียบลิ่ม
- เลือกต้นพันธุ์ที่เราจะต่อกิ่งให้มีอายุมากกว่า 1 ปีและจะต้องเป็นต้นพันธุ์ที่สมบูรณ์แข็งแรงไม่มีโรค
- เลือกต้นตอที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 6 เดือน ที่สำคัญต้นตอจะต้องปลูกด้วยวิธีการขยายพันธุ์จากเมล็ดเท่านั้นเพราะการปลูกจากเมล็ดจะมีระบบรากแก้วจากนั้นตัดต้นตอตรงส่วนที่ไม่มีข้อหรือตา ตัดเป็นแนวขวางกับกิ่ง
- ใช้มีดผ่าไปบนต้นตอ บริเวณกลางลำต้นให้ลึกประมาณ 2 ถึง 3 นิ้ว บิดมีดเล็กน้อยเพื่อให้เนื้อไม้แยกออกจากกัน
- นำกิ่งพันธุ์ที่เตรียมไว้แล้วนั้นเอามาเฉือนเฉียงๆ ลงให้มีแผลให้เป็นลักษณะรูปลิ่มที่มีความยาวประมาณ 2 นิ้ว
- นำกิ่งพันธุ์ไปเสียบกับต้นตอที่ทำการผ่าไว้แล้วในตอนต้น
- หลังจากนั้นก็พันพลาสติกใสให้แน่นจากด้านล่างขึ้นด้านบนเพื่อก้นน้ำไม่ให้ไปโดนแผลที่เราต่อกิ่งไว้ ใช้ถึงพลาสติกคลุมและครอบด้วยกระดาษอีกชั้นหนึ่ง
พืชที่นิยมในการต่อกิ่งแบบเสียบลิ่ม
พืชที่นิยมในการต่อกิ่งหรือเสียบยอดนั้นจะเป็นไม้ผลผลัดใบ น้อยหน้า แอปเปิ้ล พืชตระกูลส้ม ขนุน มะม่วง ลองกอง ทุเรียน มะไฟ
วิธีการขยายพันธุ์ด้วยการติดตา
การขยายพันธุ์ด้วยการติดตานั้นจะมีลักษณะในการทำคล้าย ๆกับกับการตอนกิ่ง เพียงแต่การติดตานั้นจะควั่นเปลือกของกิ่งต้นพันธุ์เพียงเล็กน้อยเท่านั้น การติดตาเป็นการใช้ตาใบจากิ่งมาทำเป็นการติดกับต้นตอ โดยไม่ใช้กิ่งเหมือนกับการต่อกิ่ง เป็นการประหยัดในกรณีที่มีกิ่งพันธุ์ดีน้อย ตานั้นจะเจริญไปเป็นยอดใหม่
วิธีการติดตานี้เหมาะสำหรับพืชที่อายุน้อยหรือกิ่งเล็ด นิยมในการขยายพันธุ์ไม้ผลซะเป็นส่วนใหญ่
แล้วก็เอาตามาติดซึ่งต้องเป็นตาที่ได้มาจากต้นพันธุ์ที่ดี
วิธีการติดตาแบบตัวที
วิธีการขยายพันธุ์แบบ ติดตา ให้เป็นรูปตัวทีนั้นจะเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าการติดตาแบบรูปโล่ก็ได้เพราะลักษณะของแผลที่ทำการกรีดจะมีลักษณะคล้ายกับโล่และรูปตัวทีอย่างแรกในการติดตาก็คือต้องเลือกต้อตอที่สมบูรณ์ซะก่อน
- เลือกต้นตอที่สมบูรณ์ที่ปลูกด้วยเมล็ดและมีอายุไม่ต่ำกว่า 1 ปีมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 นิ้วหรือถ้ากะ ๆก็ประมาณแท่งดินสอนั่นเอง
- กรีดต้นตอดามยาวลงมาโดยมีความยาวประมาณ 1 ถึง 1.5 เซนติเมตร และกรีดในแนวขวางเหนือแผลที่เรากรีดไว้แล้วเล็กน้อย
- หลังจากนั้นก็ใช้มีดเซาะเปลือกที่เรากรีดไว้ออกมาในทางยาวโดยเซาะออกมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้นวิธีนี้ต้องค่อย ๆทำใจเย็น ๆนะครับ
- จากนั้นเลือกกิ่งตาที่สมบูรณ์ เป็นกิ่งตาใบ โดยส่วนมาแล้วจะเลือกกิ่งต้นพืชที่อยู่ด้านในเพราะว่าด้านนอกจะเป็นกิ่งดอกเสียมาก กิ่งตาที่ดีจะอยู่บริเวณกลางกิ่ง และโคนกิ่ง เฉือนตาออกมาเป็นแผ่นรูปโล่ลอกเนื้อไม้ออกจากเปลือกแผ่นตา
- นำแผ่นตาที่เราได้มาจากข้อ 4 มาสอดเข้าไปในร่องที่เราทำเตรียมไว้ในต้นตอซึ่งมีลักษณะเป็นรูปตัวที เมื่อสอดเข้าไปในร่องแผลต้นตอเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็จัดให้แนบกับเนื้อไม้ให้สนิท อาจจะตัดส่วนของแผ่นตาที่เกินรอยแผลด้านบททิ้งก็ได้เช่นกัน
- หลังจากนั้นก็เอาพลาสติกใสมาพันให้แน่นโดยการพันจะต้องพันจากล่างขึ้นบนเสมอเพื่อป้องกันน้ำไหลเข้าไป หากผ่านไป 2 ถึง 3 อาทิตย์แล้วตายังเขียวอยู่แสดงว่าการติดตาสมบูรณ์
พืชที่นิยมในการขยายพันธุ์ด้วยวิธีติดตา
เป็นพืชเปลือกบางและเหนียว อาทิ กุหลาบ มะสัง มะขวิด มะงั่ว มะไฟ กระท้อน พุทรา ลองกอง
ขั้นตอนการทาบกิ่ง
ก่อนทาบกิ่งเราควรที่จะหากิ่งที่มีขนาดเท่ากัน
เครื่องมือที่ต้องมีในการขยายพันธุ์แบบไม่ใช้เมล็ด
- กรรไกรตัดกิ่ง
- มีดขยายพันธุ์หรือมีดคัดเตอร์
- ขุยมะพร้าว ขี้เถ้าแกลบ หรือทรายหยาบ
- ถุงพลาสติกใส
- เชือกฟาง
- ฮอร์โมนเร่งการออกราก
วิธีการขยายพันธุ์ด้วยการทาบกิ่ง
นี่คงเป็นอีกวิธีหนึ่งในการขยายพันธุ์พืชที่ไม่ต้องพึ่งพาเมล็ดอีกวิธีหนึ่ง ซึ่งก่อนหน้านี้ผมได้แนะนำไปหลายวิธีแล้วเหมือนกัน ส่วนวิธีนี้เรียกว่าการ ทาบกิ่ง เป็นวิธที่ที่ช่วยให้ขยายพันธุ์พืชที่ติดตาและต่อกิ่งได้ยาก เป็นการนำพืชที่มีรากและยอดองตัวเองมาทำการเชื่อมต่อกัน โดยต้นกล้าที่เพาะจากเมล็ดจะนำมาเป็นต้นตอ ส่วนยอดกิ่งพันธุ์จะใช้จากต้นใหญ่ วิธีการนี้จะได้ต้นพันธุ์ที่ทนต่อสภาพแวดล้อม โตเร็วและสามารถทำได้ทุกฤดูกาล
ลักษณะการทาบกิ่งที่ถูกต้อง
วิธีทำการทาบกิ่งแบบปาด
- ต้องทำการเพาะต้นกล้าสำหรับเป็นต้นตอไว้เสียก่อนเมื่อต้นตออายุได้ประมาณ 2 เดือน ก็สามารถนำต้นที่แข็งแรงมาใส่ถุงพลาสติกที่บรรจุขุยมะพร้าว ที่พรมน้ำพอชื้นแล้วนำไปทาบกิ่งได้
- นำต้นตอกับมาเทียบกับกิ่งดู ให้เลือกที่ขนาดต้นตอกับกิ่งพันธุ์มีขนาดเท่ากัน คำนวณดูว่าทาบด้านใดจึงจะเหมาะสมที่สุดที่สำคัญต้องสะดวกในการดูแลรักษาด้วยเหมือนกัน
- ปาดกิ่งพันธุ์ที่เราเลือกว่ามีขนาดและความเหมาะสมที่จะทาบกิ่งโดยปาดจากบนลงล่างให้แผลยาวประมาณ 1 ถึง 2 นิ้ว และลึกไม่ต้องมาก
- ใช้มีดเอียงทำมุม 45 องศา เฉือนกิ่งต้นตอเป็นรูปปากฉลาม โดยให้แผลมีขนาดเท่ากับแผลของกิ่งพันธุ์ที่เราปาดไปก่อนหน้านี้และให้เฉือนต้นตอให้เหลือขนาดสั้นประมาณ 3 ถึง 4 นิ้วจากปากถุงเพาะ
- นำต้นตอและกิ่งพันธุ์มาทาบแนบกัน โดยให้แผลทับกันสนิทดี จากนั้นให้ใช้เทปพลาสติกใสพันให้แน่นจากล่างขึ้นบนเพื่อกันน้ำเข้า
- ใช้เชือกมัดที่โคนของต้นตอให้ติดกับกิ่งพันธุ์รวมทั้งมัดตุ้มถุงชำให้ติดกับกิ่งพันธุ์ เพื่อกันไม่ให้กิ่งต้นตอเคลื่อนที่ได้
- หลังจากทาบกิ่งภายใน30 ถึง 45 วัน แผลจะติดกันสนิทดีโดยก่อนจะตัดให้ทำการควั่นกิ่ง พันธุ์บริเวณใต้รอยต่อ เป็นการบังคับให้อาหารที่เกิดที่ยอดพันธุ์ส่งไปที่ตุ้มรากของต้นตอ หลังจากควั่นไปแล้ว 15 ถึง 30 วัน ตุ้มรากจะมีรากหนาแน่น ก็สามารถที่จะตัดไปปลูกได้โดยตัดใต้รอยต่อของกิ่งพันธุ์
การทาบกิ่งเสร็จแล้วจะออกมาเป็นรูปแบบนี้
พืชที่นิยมในการขยายพันธุ์แบบทาบกิ่ง
ไม้ผลยืนต้นที่ใช้เวลาติดนาน อย่าง มะม่วง ขนุน เงาะ มะขาม มะขามหวาน มะไฟ
ถ้าการขยายพันธ์แบบใช้เมล็ด ก็ปลูกด้วยเมล็ดซึ่งมีข้อเสียคือ ต้นลูกที่เราปลูกด้วยเมล็ดมีสิทธิที่จะกลายพันธุ์ แต่ถ้าขยายพันธุ์ด้วยการไม่ใช้เมล็ด การกลายพันธุ์จะไม่มีเลยและการเจริญเติบโตจะเร็วกว่าการปลูกด้วยเมล็ด การขยายพันธุ์แบบที่ไม่ใช้เมล็ดก็มี ทาบกิ่ง ต่อกิ่ง ปักชำ ตอนกิ่ง ติดตา ซึ่งทุกวิธีจะต้องมีกิ่งพันธุ์ที่ต้องนำมาเพาะให้แข็งแรงต่อไปซึ่งวันนี้ผมจะพูดถึงส่วนผสมที่สำคัญในการ ปรุงดินให้มีธาตุอาหารและความสมบูรณ์ต่อกิ่งพันธุ์ที่นำมาเพาะกล้า
ดินที่ดีจะต้องเป็นดินที่สามารถระบายน้ำได้ดี และมีอากาศถ่ายเทที่สะดวก
การอนุบาลกิ่งพันธุ์ก่อนที่จะนำไปปลูกในแปลง ควรที่จะใช้ดินที่มีคุณสมบัติที่ดีในการอนุบาลซึ่งเป็นช่วงที่สำคัญมากของกิ่งพันธุ์ กิ่งพันธุ์จะแข็งแรงไม่แข็งแรงก็ขึ้นอยู่กับช่วงที่อนุบาลเนี่ยละครับ
ดินที่ปลูกในช่วงที่อนุบาลกิ่งพันธุ์นั้นควรที่จะมีธาตุอาหารที่สำคัญที่กิ่งพันธุ์ต้องการและมีคุณสมบัติเหมือนกับดินร่วนซุยคือ สามารถระบายน้ำได้ดีและมีอากาศถ่ายเทได้ดีอีกด้วย ซึ่งคุณสมบติเหล่านี้เราสามารถที่จะปรุงแต่งดินให้มีคุณสมบัติเหล่านี้ได้
สูตรดินที่เหมาะสำหรับการอนุบาลกิ่งพันธุ์
อย่างแรกในการปรุงดินก็คือเราจะต้องเตรียมวัสดุและอุปกรณ์ในการปรุงดินก่อนซึ่งมีดังนี้
- หน้าดิน 1 ส่วน
- ปุ๋ยชีวภาพ 1 ส่วน
- ขุยมะพร้าว ½ ส่วน
- แกลบดำ ½ ส่วน
- แกลบ ½ ส่วน
- ใบไม้ผุ ½ ส่วน
- ปูนขาว 1 ถุง
การผสมดินเพื่อกิ่งพันธุ์ในช่วงอนุบาล
วิธีในการทำสูตรดินที่เหมาะสำหรับการอนุบาลกิ่งพันธุ์
นำส่วนผสมทุกอย่างมาคลุกเคล้าให้เข้ากันโดยการเตรียมสถานที่ที่จะปรุงดินด้วยพลาสติกปูพื้นไว้ก่อนหลังจากนั้นก็นำวัสดุต่าง ๆที่ผมบอกไปแล้วมาผสมกันให้เป็นกองโดยใช้มือในการคลุกส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากัน ถ้าดินที่ได้ยังเป็นก้อนอยู่ก็ให้ทุบให้ละเอียดก้อนที่จะนำมาผสม
ระหว่างการผสมนั้นเราควรที่จะรดน้ำอย่างสม่ำเสมอเพื่อสร้างความชุ่มชื้นให้กับดินที่เราผสมอยู่ วิธีตรวจวัดความชื้นของดินก็ใช้วิธีบ้าน ๆอบบที่เราเคยใช้นั้นละครับด้วยวิธีใช้มือกำดินที่ผสมดู หากไม้เป็นก้อนแสดงว่าความชื้นน้อยไปให้รดน้ำและทำการคลุกเคล้าต่อจนกว่าจะได้ที่ ส่วนถ้าเรากำแล้วเป็นก้อนแต่มีน้ำไหลเยิ้มแสดงว่าความชื้นมาเกินไปก็ต้องคลุกเคล้าต่อไปหรือเพิ่มส่วนผสมลงไปอีก สิ่งที่เหมาะที่สุดก็คือเมื่อเรากำดินที่ผสมแล้วต้องเป็นก้อนและไม่มีน้ำไหลอย่างนี้เรียกว่าความชื้นใช้ได้แล้ว
กิ่งพันธุ์ในช่วงอนุบาลก็ต้องมีดินที่ดีด้วย
ประโยชน์ของสูตรดินที่เหมาะสำหรับการอนุบาลกิ่งพันธุ์
ประโยชน์ของการ ปรุงดิน ก็เพื่อให้ดินที่เราปรุงนั้นมีธาตุอาหารที่เพียงพอต่อการเจริญเติบโตของกิ่งพันธุ์ เพราะในช่วงอนุบาลกิ่งพันธุ์นั้นเป็นช่วงที่สำคัญอย่างมากกิ่งพันธุ์จะแข็งแรงและไม่แข็งแรงก็อยู่ในช่วงนี้แหล่ะ
จริงๆการขยายพันธุ์พืชนั้นมีมากมายหลายวิธี แต่เราจะนำเสนอสิ่งที่ไม่มีต้นทุนสูงมากและสามารถพึ่งพาตัวเองได้และมีขั้นตอนไม่ยุ่งยาก
การขยายพันธุ์ไม้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการสร้างรายได้อีกทาง ยกตัวอย่างเช่น หากเราปลูกต้นมะนาวนอกจากเราจะขายผลได้แล้วเรายังสามารถขายกิ่งของต้นมะนาวได้อีกด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น