วันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

สำรวจตัวเองเพื่อวางรากฐานชีวิต


ตั้งคำถามเพื่อสำรวจและวิเคราะห์ตัวเอง
1.ต้อนนี้เรามีอะไรบ้างที่จะสามารถสร้างสวนเกษตรเล็กๆของเราขึ้นมาได้บ้าง
2.เราพอมีที่ดินไหม
3.เราพอมีน้ำเพียงพอหรือปล่าว
4.เรามีเมล็ดพันธุ์หรือกล้าไม้อะไรบ้าง
5.เราพอมีเงินทุนบ้างหรือป่าว
6.เรามีเวลามากแค่ไหนในการลงมือทำ

ลองค่อยๆคิดแล้วตอบตัวเองดู 
แล้วเราจะพบปัญหาที่เกิดขึ้น เช่น
1.ไม่มีที่ดินเพียงพอที่จะทำเป็นสวน
2.อยู่คอนโด อยู่บ้านเช่า บ้านเทเป็นพื้นปูนหมด
3.น้ำไม่พอใช้ 
4.ไม่มีกล้าไม้อะไรสักอย่าง 
5.แถบไม่มีเงินทุนเลย
6.ต้องทำงานประจำไม่มีเวลามาทำสวนหรอก

พอเราพบปัญหาแล้ว ก็ถามตัวเองต่อว่าเราจะทำสวนเกษตรได้อย่างไร จากปัญหาที่เกิดขึ้น

1.ไม่มีที่ดินเพียงพอที่จะทำเป็นสวน อยู่คอนโด อยู่บ้านเช่า บ้านเทเป็นพื้นปูนหมด 
วิธีแก้คือถ้าพื้นที่เราปลูกอะไรไม่ได้เลย
ถ้าเราพอมีพื้นที่ว่างเล็กๆเช่นระเบียงคอนโด หน้าบ้านข้างบ้านหรือหลังบ้านดูก็ได้ 
ลองเริ่มจากปลูกผักสวนครัวในกระถางดูก่อน 
ทำเป็นสวนเล็กๆแนวตั้งตามรั้วบ้าน
ปลูกผักในกลองนมวางไว้ตรงระเบียงบ้านที่มีแสงเข้าถึงก็ได้
นำขวดแก้วที่เหลือใช้แล้วนำมาดัดแปลงเป็นกระถางปลูกผักวางไว้ตรงขอบหน้าต่างบ้านก็ได้
เปลือกไข่ก็สามารถทำได้
ทำสวนผักแนวตั้งข้างกำแพงบ้านก็ได้
ห้อยกระถางไว้ตรงที่พอมีแสงเข้าถึง

ปลูกข้าวกินในกระถางหรือวงบ่อ
ถ้าหากมีทุนก็อาจจะปลูกผักไฮโดรโปนิกส์เลยก็ได้เพราะไม่ต้องใช้ดิน
ถ้ามีพื้นที่ว่างบนดาดฟ้าก็อาจจะปลูกผักหรือทำเป็นนาข้าวเลยก็ได้

พอมีที่ดินอยู่บ้างเราก็สามารถออกแบบให้เป็นหลุมพอเพียง

วิธีการทำหลุมพอเพียง คือ การปลูกพืชหลายอย่างในหลุมเดียว หลุม ที่ว่านี้ไม่ได้สภาพเป็น หลุมลึก ๆ แต่เป็นการปลูกพืชเป็นกลุ่ม ขนาดที่ทำคือขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง ๑ เมตร คือขนาดกว้าง ๘๐ – ๑๐๐ เซนติเมตร โดยสร้างหลุมไว้ตามกหัวไร่ปลายนา มุมบ้าน หลังครัว ขอบบ่อน้ำ ริมทางเดิน ได้หมด
หลุมพอเพียงก็คือวิธีการบริหารจัดการสิ่งที่อยู่ในหลุมเริ่มจาก เตรียมพื้นที่ตามขนาดที่กำหนด แล้วก็ปลูกหญ้าแฝกเป็นรูปวงกลมหรือเป็นล็อกสี่เหลี่ยม จากนั้นปลูกไม้ในหลุมนี้ ลงได้ถึง ๔ – ๕ ประเภทในหลุมเดียว เพื่อลดภาระการรดน้ำปลูกซ้ำ และเกื้อต่อการกำจัดศัตรูพืชเพราะให้ทุกอย่างเกื้อกูล
ต้นไม่ที่จะปลูกในหลุมแบ่งเป็น ๕ ประเภท
  1. ไม้พี่เลี้ยง เป็นไม้ที่ให้ร่มเงา เก็บน้ำ เก็บความชื้นโดยเฉพาะช่วงร้อนหรือหน้าแล้ง เช่น กล้วยน้ำว้ากล้วยหอม ควรปลูกทางทิศตะวันตก เพราะช่วยบังแสงช่วงบ่ายที่อากาศร้อนจัด เป็นพี่เลี้ยงให้พืชที่ไม่ชอบแดดจัดมาก ได้กล้วยเครือแรกเมื่อปลูก ๑ ปี ก็ตัดทิ้ง ปล่อยหน่อใหม่ให้ทำงาน
  2. ไม้ฉลาด เป็นไม้ข้ามปี เป็นไม้ที่เอตัวรอดได้ดี เก็บผลได้นานพอสมควร เช่น ชะอม ผักหวาน มะละกอ ผักติ้ว ผักเม็ก เริ่มเก็บกินได้ตั้งแต่ ๑เดือนไปเรื่อยๆ
  3. ไม้ปัญญาอ่อน หรือ ไม้รายวัน เป็นไม้ล้มลุกปลูกง่าย ตายเร็ว ต้องคอยปลูกใหม่ ดูแลรดน้ำทุกวัน แต่เก็บผลได้เร็ว ได้ทุกวัน เช่น พริก มะเขือ กะเพรา โหระพา ตะไคร้ ข่า ฟักทอง แตงไทย แตงกวา ผักบุ้งจีน คะน้า ฯลฯ เริ่มเก็บกินได้ตั้งแต่ ๑๕ วัน
  4. ไม้บำนาญ เป็นไม้ผลยืนต้น ใช้เวลาปลูก ๒ – ๔ ปี แต่เมื่อให้ผลผลิตแล้ว เก็บกิน เก็บขายได้เรื่อย ๆ เช่น ขนุน มะม่วง มะนาว กระท้อน เงาะ ทุเรียน มังคุด ยางพารา เป็นต้น ในหลุมหนึ่งก็เลือกปลูกแค่ประเภทเดียว
  5. ไม้มรดก เป็นกลุ่มไม้ใช้สอยที่อายุยืน ใช้เวลาปลูกนาน เก็บไว้เป็นมรดกให้ลูกหลาน ตัดขาย ก็ได้สตางค์ก้อนใหญ่หรือจะเอาไว้ใช้ซ่อมแซมบ้านก็ได้ เช่น ประดู่ สักทอง ยางนา สะเดา พะยูง ชิงชัน ไม้พวกนี้เป็นไม้ใหญ่ ปลูกฝั่งตรงข้ามกับต้นกล้วย
2 มีน้ำไม่เพียงพอ ที่บ้านทำเป็นบ่อเก็บน้ำไม่ได้

วิธีแก้ 
ถ้าหากพอมีเงินทุนอยู่บ้างก็อาจจะเจาะบ่อบาดาลใช้เองเลยก็ได้ เพราะใช้พื้นที่ไม่มากเท่าไหร่


แต่ถ้าเจาะไม่ได้หรือไม่มีเงินทุนพอ เราก็อาจจะ ทำถังเก็บน้ำหรือที่เก็บน้ำเพื่อเอาไว้เก็บน้ำประปาหรือเอาไว้ใช้รองน้ำฝนก็พอแก้ปัญหาเรื่องน้ำได้


3.เราไม่มีเมล็ดพันธุ์หรือกล้าไม้ที่จะเอามาปลูก
วิธีแก้เราสามารถหาได้มาฟรีๆ โดยการออกไปหาจากเพื่อนข้างบ้าน แถวข้างทางที่มีต้นไม้หรือไม่ก็หาซื้อได้ตามร้านค้าที่ขายกล้าไม้เลยก็ได้

4.แถบไม่มีเงินทุนทำอะไรเลย
วิธีแก้ เราก็ต้องขยันมากกว่าคนอื่น
ขยันทำงานมากขึ้น หารายได้หลายๆช่องทาง รู้จักเก็บรู้จักออม รู้จักนำเงินไปลงทุน
ถ้าเราทำได้เราก็จะมีเงินทุนที่เพียงพอ แต่การทำเกษตรนั้นหากไม่ทำใหญ่จนเกินตัวก็ไม่จำเป็นต้องมีเงินมากๆก็ได้ 
ขอเพียงแค่ขยันหาเมล็ดพันธุ์หากล้าพันธู์ไม้จากในป่าจากสวนสวนของคนที่เรารู้จักหรือจากที่ไหนก็ได้แล้วนำมาเพาะทิ้งไว้
เราเพียงแค่ลงแรงลงทุนเวลาและมีความอดทนพอ เพียงแค่นี้เราก็มีกล้าไม้ให้ปลูก แถมกล้าไม้เรายังนำไปขายได้อีกรับรองว่ามีเงินทุนเพียงพอแน่นอน 
ถ้าหากเราไม่ทำอะไรที่ใหญ่เกินตัว อย่าเอาเงินทุนมาเป็นข้ออ้างของการไม่ลงมือทำอะไร 
แต่จงรู้จักใช้สติปัญหา ขยันหา ขยันทำ ทำให้ทุกที่ ทำให้ทุกเวลา รับรองว่าเงินทองมาจะวิ่งมาหาเอง
5.ต้องทำงานประจำไม่มีเวลาว่างมาทำสวน
วิธีแก้ไข
คนเรามีเวลา 24 ชั่วโมงเท่ากันทุกๆวัน วันใหม่ของวันจะเริ่มต้นทุก 6 โมงเช้า 
แต่ถ้าเราตื่นก่อน 6 โมงเช้า เราก็จะมีเวลาชีวิตมากขึ้น  ถ้าตื่นตี่ 4 ตี่ 5 เราก็มีเวลาเพิ่มขึ้นมาตั้งชั่วโมงสองชั่วโมง
เราก็เอาเวลาที่เหลือมาปลูกต้นไม้มารดน้ำต้นไม้ก็ได้ถือว่าเป็นการออกกำลังกายไปในตัวหรือทำอะไรก็ได้ที่เป็นประโยชน์กับชีวิตมากขึ้น
เวลาเลือกงานหรือวันหยุดเสาร์อาทิตย์ก็ได้เอาเวลาว่างๆเล็กๆน้อยๆมาสร้างสวนมาสร้างโลกให้น่าอยู่ยิ่งขึ้น ค่อยๆเริ่มต้นจากสิ่งเล็กๆ ก้าวไปทีละก้าว 
เริ่มต้นจากความไม่พร้อมเริ่มต้นจากความไม่มีอะไรเลย แล้วค่อยๆสะสมความไ่ม่พร้อมไปเรื่อยๆ แล้วสุดท้ายมันจะเกิดเป็นความพร้อมและความสมบูรณ์แบบขึ้นมาเอง 

ขอเพียงแค่ใจเราไม่ยอมแพ้

สำหรับคนที่มีบ้านอยู่เมืองกรุงแต่อยากใช้ชีวิตอยู่อย่างเรียบง่ายอยู่อย่างพอเพียงจริงๆ
ถ้าไม่ติดหนี้หรือไม่ได้มีภาระอะไรมากมายหรือพอมีเงินเก็บมีเงินทุนอยู่บ้างก็ลองหาซื้อที่แถวบ้านนอกหรือสถานที่ ที่สามารถทำเกษตรเพียงพอได้ หรือถ้าใครมีที่อยู่แล้วก็ลองลงมือทำดู แล้วเราจะรู้เองว่า
เดินตามรอยเท้าพ่อไม่มีวันจน ตอนเริ่มต้นมันอาจจะลำบากหน่อยแต่ถ้าลงมือทำจริงๆมันจะค่อยๆสร้างความมั่นคงและความมั้งคั้งได้สบายๆ
แต่สำหรับคนที่มีพื้นที่หลายไร่และพอมีเงินทุนอยู่บ้างและมีเวลาที่จะลงมือทำก็สามารถอ่านบทความต่อไปได้เลยเพื่อเป็นแนวทางนำไปปรับใช้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น